ตำแหน่งกระดูก เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยทอง ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลง ซึ่งส่งผลต่อมวลกระดูกและทำให้กระดูกเปราะบางมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อหมดระดูไปแล้ว 10-20 ปี ส่งผลให้กระดูกอาจจะบางมากจนทำให้หักได้ง่ายขึ้นแม้จะได้รับอุบัติเหตุเพียงเบาๆ หรือเพียงแค่ยกของหนัก โดยตำแหน่งที่กระดูกหักบ่อยเมื่อก้าวสู่วัยทอง ได้แก่

  • กระดูกสะโพก กระดูกสะโพกเป็นกระดูกที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย กระดูกหักที่กระดูกสะโพกถือเป็นกระดูกหักที่ร้ายแรงที่สุด เนื่องจากอาจทำให้สูญเสียความสามารถในการเดินได้ กระดูกหักที่กระดูกสะโพกมักเกิดจากการล้มหรือหกล้ม
  • กระดูกสันหลัง กระดูกสันหลังเป็นโครงสร้างกระดูกที่ค้ำจุนร่างกาย กระดูกหักที่กระดูกสันหลังอาจทำให้กระดูกสันหลังยุบตัวลง ซึ่งส่งผลให้ตัวเตี้ยลง หลังโก่ง และอาจมีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง
  • กระดูกข้อมือ กระดูกข้อมือเป็นกระดูกที่เชื่อมต่อระหว่างแขนและมือ กระดูกหักที่กระดูกข้อมือมักเกิดจากการล้มหรือหกล้ม

นอกจากตำแหน่งที่กล่าวมาแล้ว กระดูกอื่นๆ ที่อาจหักได้ง่าย บาคาร่า168 เมื่อก้าวสู่วัยทอง ได้แก่ กระดูกต้นแขน กระดูกซี่โครง กระดูกแขนท่อนปลาย และกระดูกเท้า การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีอย่างเพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ล้วนมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดกระดูกหักเมื่อก้าวสู่วัยทอง

เกิดเป็นผู้หญิง ย่อมมีโอกาสเผชิญกับช่วงเวลาของการเป็นวัยทอง ซึ่งอาการวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือนส่งผลให้ร่างกายเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ด้าน ตำแหน่งกระดูก โดยเฉพาะในเรื่องของอารมณ์และจิตใจ อีกทั้งยังมีอาการอื่นๆ โรตีสายไหม ที่บ่งชี้ถึงการเข้าสู่วัยทอง เช่น ช่องคลอดแห้ง ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน มีอาการหนาวสั่น การเผาผลาญลดลง ผมบาง ผมร่วง ผิวแห้ง น้ำหนักเพิ่ม นอนหลับไม่สนิท กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และเต้านมหย่อนคล้อย วันนี้เราจึงรวมเอาอาหาร 6 ชนิดที่คนวัยทองควรกินเพื่อลดอาการต่างๆ

1.ผักใบเขียว ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า และผักเคล อุดมด้วยแคลเซียม ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อการรักษากระดูกให้แข็งแรง และช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบรรเทาอาการอักเสบและอาการวัยทองได้เป็นอย่างดี

2.บร็อคโคลี่ บร้อกโคลีเป็นผักที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และยังอุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน พร้อมทั้งช่วยเสริมความหนาแน่นของกระดูก ที่สำคัญยังช่วยแก้อาการท้องอืด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาการของวัยทองที่พบได้บ่อยมาก

3.ถั่ว ถั่วอุดมด้วยแมกนีเซียม เป็นสารที่ช่วยลดความวิตกกังวล ช่วยลดอาการนอนไม่หลับ ลดอาการแปรปรวนและความเศร้า อีกทั้งยังเป็นสารที่มีความจำเป็นต่อกระดูกอีกด้วย นอกจากนี้ถั่วยังถือเป็นแหล่งของสารอาหารอีกหลายชนิด เช่น แคลเซียม สังกะสี โปรตีน และกรดไขมันโอเมก้า3 ซึ่งถือเป็นสารอาหารที่ช่วยลดอาการวัยทองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.ธัญพืช ธัญพืชอุดมด้วยวิตามิน สารอาหารรอง และเส้นใยอาหาร โดยสารอาหารเหล่านี้จะมีอยู่เป็นจำนวนมากในธัญพืชชนิดไม่ขัดสี เป็นสารอาหารที่ช่วยปรับความสมดุลและช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารได้ดีมากๆ อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อระบบประสาทและอารมณ์อีกด้วย

5.ไข่ อุดมด้วยโปรตีน ธาตุเหล็ก และวิตามินดี โดยสารอาหารเหล่านี้ช่วยลดอาการวัยทองได้ดี เนื่องจากร่างกายที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน จะมีภาวะขาดวิตามินดีและธาตุเหล็ก ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเติมสารอาหารเหล่านี้เข้าไปให้เพียงพอ เพื่อให้อาการวัยทองดีขึ้น

6.ขมิ้น ถือเป็นสมุนไพรที่มีความสามารถในการต้านการอักเสบได้ดี ซึ่งในขมิ้นจะมีสารเคอร์คูมิน โดยสารชนิดนี้จะมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ และช่วยควบคุมอาการต่างๆ ของวัยทอง ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดข้อ อาการร้อนวูบวาบ รวมทั้งยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร และช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารได้ดีมากๆ

สำหรับผู้หญิงคนไหนที่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยทอง และมีความวิตกกังวลว่าตัวเองจะไม่สามารถเผชิญกับอาการวัยทองได้ดี แนะนำให้หมั่นกินอาหารทั้ง 6 ชนิดนี้เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย และมีความสามารถในการลดและช่วยบรรเทาอาการวัยทองต่างๆ